18 พฤศจิกายน 2568

mbr กับ gpt

          MBR (Master Boot Record) และ GPT (GUID Partition Table) เป็นรูปแบบ (schemes) สำหรับการแบ่งพาร์ติชันดิสก์ไดรฟ์ (HDD หรือ SSD) ซึ่งบอกระบบปฏิบัติการถึงวิธีการจัดระเบียบข้อมูลบนดิสก์ ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือ GPT เป็นมาตรฐานที่ทันสมัยกว่า ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเอาชนะข้อจำกัดหลายประการของ MBR ซึ่งเป็นมาตรฐานแบบเก่า 

นี่คือตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติหลัก:

คุณสมบัติ 

MBR (Master Boot Record)

GPT (GUID Partition Table)

ขนาดดิสก์สูงสุดที่รองรับ

2 TB (เทราไบต์)

ใหญ่กว่ามาก (เช่น 18 EB หรือ 256 TB ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการ)

จำนวนพาร์ติชันหลัก

4 พาร์ติชันหลัก (Primary Partitions)

128 พาร์ติชันหลักใน Windows

เฟิร์มแวร์ที่ใช้ร่วม

Legacy BIOS (ไบออสแบบเก่า)

UEFI (Unified Extensible Firmware Interface)

ความเข้ากันได้

เข้ากันได้ดีกับระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า

ไม่เข้ากันกับระบบปฏิบัติการเก่าที่ไม่รองรับ UEFI

ความทนทานของข้อมูล

ข้อมูลการบูตอยู่ที่เซกเตอร์แรกที่เดียว หากเสียหายจะกู้คืนยาก

เก็บสำเนาข้อมูลพาร์ติชันไว้หลายแห่งบนดิสก์เพื่อการกู้คืนที่ดีขึ้น

สรุปความแตกต่าง

  • MBR เป็นเทคโนโลยีที่เก่ากว่า เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าหรือดิสก์ที่มีขนาดไม่เกิน 2 TB
  • GPT เป็นเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ดีกว่า รองรับดิสก์ขนาดใหญ่กว่า 2 TB และจำเป็นสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows สมัยใหม่ที่ใช้เฟิร์มแวร์ UEFI 

โดยสรุป หากคุณใช้คอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย (เช่น Windows 10/11) และมีฮาร์ดไดรฟ์ขนาดใหญ่ GPT เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด สำหรับระบบเก่ามาก ๆ MBR อาจเป็นทางเลือกเดียวที่ใช้งานได้ 

 

การแปลงระหว่าง MBR และ GPT สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งแบบที่ข้อมูลไม่หาย (มีเครื่องมือช่วย) และแบบที่ข้อมูลหาย (ใช้เครื่องมือใน Windows โดยตรง)นี่คือวิธีที่นิยมใช้กันครับ:

วิธีที่ 1: ใช้ Windows Disk Management (ข้อมูลจะหาย)วิธีนี้เป็นวิธีมาตรฐานและง่ายที่สุดสำหรับผู้ใช้ Windows ทั่วไป แต่ ต้องสำรองข้อมูลสำคัญทั้งหมดในดิสก์นั้นออกมาก่อน เพราะกระบวนการนี้จะล้างข้อมูล (Format) ดิสก์ทั้งหมด

1.       เปิด Disk Management:

1.                   คลิกขวาที่ปุ่ม Start (ไอคอน Windows ที่มุมซ้ายล่างของหน้าจอ)

2.                   เลือก Disk Management

2.       ลบพาร์ติชันทั้งหมด:

1.                   ในหน้าต่าง Disk Management คุณจะเห็นรายการดิสก์ (เช่น Disk 0, Disk 1) และพาร์ติชันต่าง ๆ

2.                   คลิกขวาที่แถบพาร์ติชันแต่ละอันบนดิสก์ที่คุณต้องการแปลง (ระวังอย่าคลิกที่ดิสก์ระบบของคุณ)

3.                   เลือก Delete Volume... หรือ ลบโวลุ่ม... ทำซ้ำจนกว่าทั้งดิสก์จะเป็นพื้นที่สีดำและขึ้นสถานะเป็น Unallocated (ไม่ได้จัดสรร)

3.       แปลงรูปแบบ:

1.                   คลิกขวาที่ ชื่อดิสก์ (เช่น "Disk 1") ตรงบริเวณด้านซ้ายที่มีชื่อ

2.                   เลือก Convert to GPT Disk (แปลงเป็นดิสก์ GPT) หรือ Convert to MBR Disk (แปลงเป็นดิสก์ MBR) ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการแปลงไปเป็นแบบไหน

4.       สร้างพาร์ติชันใหม่:

1.                   หลังจากแปลงแล้ว คลิกขวาที่พื้นที่สีดำ (Unallocated) แล้วเลือก New Simple Volume... เพื่อสร้างพาร์ติชันและฟอร์แมตกลับมาใช้งานได้ตามปกติ


วิธีที่ 2: ใช้ Command Prompt (CMD) กับคำสั่ง Diskpart (ข้อมูลจะหาย)

วิธีนี้คล้ายกับวิธีที่ 1 แต่ใช้คำสั่งบรรทัดคำสั่ง เหมาะสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับ CMD และ ข้อมูลจะหายเช่นกัน

1.       เปิด CMD ในโหมดผู้ดูแลระบบ:

1.                   พิมพ์ cmd ในช่องค้นหา

2.                   คลิกขวาที่ Command Prompt แล้วเลือก Run as administrator

2.       ใช้คำสั่ง:

1.                   พิมพ์ diskpart แล้วกด Enter

2.                   พิมพ์ list disk แล้วกด Enter (เพื่อดูรายการดิสก์ทั้งหมด)

3.                   จดจำหมายเลขดิสก์ที่คุณต้องการแปลง (เช่น ดิสก์หมายเลข 1)

4.                   พิมพ์ select disk 1 แล้วกด Enter (แทนที่ '1' ด้วยหมายเลขดิสก์ของคุณ)

5.                   พิมพ์ clean แล้วกด Enter (คำสั่งนี้จะล้างข้อมูลและพาร์ติชันทั้งหมดในดิสก์ที่เลือก)

6.                   หากต้องการแปลงเป็น GPT: พิมพ์ convert gpt แล้วกด Enter

7.                   หากต้องการแปลงเป็น MBR: พิมพ์ convert mbr แล้วกด Enter


วิธีที่ 3: ใช้เครื่องมือของบริษัทอื่น (ข้อมูลไม่หาย)

หากคุณไม่ต้องการลบข้อมูลในดิสก์ คุณจะต้องใช้ซอฟต์แวร์จัดการพาร์ติชันจากผู้ผลิตรายอื่น เช่น EaseUS Partition Master หรือ MiniTool Partition Wizard รุ่นเสียเงิน (ส่วนใหญ่ฟังก์ชันแปลงโดยไม่ลบข้อมูลมักอยู่ในรุ่น Pro)

  • ข้อดี: ข้อมูลไม่หาย ไม่ต้องสำรองข้อมูลขนาดใหญ่
  • ข้อควรระวัง: ควรเลือกซอฟต์แวร์ที่น่าเชื่อถือและทำตามขั้นตอนอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด

ข้อควรจำก่อนแปลง:

  • สำรองข้อมูล: วิธีที่ 1 และ 2 ข้อมูลหายแน่นอน ควรสำรองข้อมูลไว้ก่อน
  • BIOS/UEFI: หากคุณจะแปลงดิสก์หลักที่มี Windows อยู่ คุณต้องแน่ใจว่าเมนบอร์ดของคุณรองรับรูปแบบใหม่ (MBR ใช้ BIOS เก่า, GPT ใช้ UEFI ใหม่) และต้องเข้าไปตั้งค่าใน BIOS/UEFI ด้วยหลังแปลงเสร็จ

 

เราจะดูได้อย่างไร ว่าปัจจุุบัน HDD ของเราเป็นแบบใด

มีหลายวิธีในการตรวจสอบประเภท HDD/SSD ของคุณ วิธีที่ง่ายที่สุดบน Windows มีดังนี้:

วิธีที่ 1: ใช้ Task Manager (สำหรับ Windows 10 และ 11)

วิธีนี้รวดเร็วและตรงไปตรงมาที่สุด 

1.       คลิกขวาที่แถบ Taskbar (แถบด้านล่างจอ) แล้วเลือก Task Manager

2.       ไปที่แท็บ Performance (ประสิทธิภาพ)

3.       ในแผงด้านซ้าย ให้คลิกที่แต่ละ Disk (ดิสก์ 0, ดิสก์ 1 ฯลฯ)

4.       ใต้ชื่อรุ่นของไดรฟ์ที่ด้านบนขวา คุณจะเห็นระบุว่าเป็น SSD หรือ HDD 

วิธีที่ 2: ใช้ Device Manager

วิธีนี้จะแสดงชื่อรุ่นที่ชัดเจน ซึ่งคุณสามารถนำไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ 

1.       คลิกขวาที่ปุ่ม Start (ไอคอน Windows) แล้วเลือก Device Manager

2.       คลิกที่เครื่องหมายลูกศรข้างหน้า Disk drives เพื่อขยายรายการ

3.       คุณจะเห็นชื่อรุ่นของฮาร์ดไดรฟ์แต่ละตัวที่ติดตั้งอยู่

4.       นำชื่อรุ่นนั้นไปค้นหาใน Google เพื่อดูรายละเอียดว่าเป็น HDD หรือ SSD และเป็นประเภทการเชื่อมต่อแบบใด (เช่น SATA, NVMe M.2) 

วิธีที่ 3: ใช้ System Information

วิธีนี้ให้ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับระบบทั้งหมด 

1.       กดปุ่ม Windows + R เพื่อเปิดหน้าต่าง Run

2.       พิมพ์ msinfo32 แล้วกด Enter

3.       ในหน้าต่าง System Information ให้ไปที่ Components > Storage > Disks

4.       มองหาข้อมูลในช่อง Media Type ซึ่งจะระบุว่าเป็น "Hard disk drive" หรือ "Solid State Drive" 

วิธีที่ 4: สำหรับผู้ใช้ Mac

1.       คลิกที่เมนู Apple (ไอคอนแอปเปิลที่มุมซ้ายบน)

2.       เลือก About This Mac

3.       คลิกที่ System Report

4.       ในส่วน Storage คุณจะเห็นรายละเอียดประเภทของไดรฟ์ 

โดยวิธีข้างต้น คุณจะสามารถระบุได้ว่าไดรฟ์ที่คุณใช้อยู่เป็นแบบ HDD (จานหมุนแบบเก่า) หรือ SSD (หน่วยความจำแฟลชที่เร็วกว่า) ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ 

AI อาจทำผิดพลาดได้ ดังนั้นโปรดตรวจสอบคำตอบอีกครั้ง

 

 

เราจะดูได้อย่างไรว่า HDD เป็น MBR หรือ gpt

วิธีตรวจสอบว่า HDD หรือ SSD ของคุณใช้รูปแบบพาร์ติชัน (Partition Style) แบบ MBR (Master Boot Record) หรือ GPT (GUID Partition Table) มีหลายวิธีดังนี้ครับ

วิธีที่ 1: ใช้ Disk Management (ง่ายที่สุดสำหรับ Windows)

วิธีนี้รวดเร็วและใช้ได้กับ Windows ทุกเวอร์ชัน

1.       คลิกขวาที่ปุ่ม Start (ไอคอน Windows ที่มุมซ้ายล่าง) แล้วเลือก Disk Management

1.                   หรือกดปุ่ม Windows + R พิมพ์ diskmgmt.msc แล้วกด Enter

2.       หน้าต่าง Disk Management จะเปิดขึ้นมา แสดงรายการไดรฟ์ทั้งหมด

3.       คลิกขวาบนชื่อ "Disk" ที่คุณต้องการตรวจสอบ (เช่น Disk 0Disk 1) บริเวณด้านซ้ายที่มีชื่อกำกับ ไม่ใช่บนตัวพาร์ติชัน (C: D:)

4.       เลือก Properties (คุณสมบัติ)

5.       ไปที่แท็บ Volumes (โวลุ่ม)

6.       มองหาหัวข้อ Partition style หรือ Partition information ซึ่งจะระบุชัดเจนว่าเป็น Master Boot Record (MBR) หรือ GUID Partition Table (GPT)

วิธีที่ 2: ใช้ Command Prompt (CMD) หรือ PowerShell

วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับการใช้คำสั่ง

1.       คลิกขวาที่ปุ่ม Start แล้วเลือก Command Prompt (Admin) หรือ Windows PowerShell (Admin)

2.       เมื่อหน้าต่างคำสั่งเปิดขึ้นมา ให้พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้แล้วกด Enter:

bash

diskpart

ใช้โค้ดอย่างระมัดระวัง

3.       หลังจาก diskpart ทำงาน ให้พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้แล้วกด Enter:

bash

list disk

ใช้โค้ดอย่างระมัดระวัง

4.       รายการไดรฟ์ทั้งหมดจะปรากฏขึ้น ให้สังเกตที่คอลัมน์ชื่อ Gpt (หรือ GPT)

1.                   ถ้ามีเครื่องหมาย ดอกจัน (*) อยู่ใต้คอลัมน์ Gpt หมายความว่าไดรฟ์นั้นใช้รูปแบบ GPT

2.                   ถ้า ไม่มี เครื่องหมายดอกจัน หมายความว่าไดรฟ์นั้นใช้รูปแบบ MBR

วิธีที่ 3: ใช้โปรแกรมเสริมภายนอก

โปรแกรมจัดการพาร์ติชันฟรีต่างๆ เช่น EaseUS Partition Master, MiniTool Partition Wizard หรือ AOMEI Partition Assistant มักจะแสดงข้อมูลนี้อย่างชัดเจนในหน้าจอหลักของโปรแกรม

โดยทั่วไป สำหรับคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ที่ใช้ Windows 10/11 และบูตด้วย UEFI มักจะใช้รูปแบบ GPT ส่วนคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่ใช้ Legacy BIOS มักจะเป็น MBR ครับ

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

mbr กับ gpt

           MBR (Master Boot Record)  และ  GPT (GUID Partition Table)   เป็นรูปแบบ ( schemes) สำหรับการแบ่งพาร์ติชันดิสก์ไดรฟ์ ( HDD หรือ SSD...